ผลลัพธ์จากงานวิจัย

ผลลัพธ์จากงานวิจัย การวิ่งเพิ่มโอกาสให้ทีมฟุตบอลคว้าชัยชนะได้มากขึ้นหรือไม่

ผลลัพธ์จากงานวิจัย

ผลลัพธ์จากงานวิจัย “ยิ่งวิ่งมาก ยิ่งมีโอกาสชนะมาก” ความเชื่อนี้ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวงการฟุตบอลทุกยุคทุกสมัย บางครั้งมันก็ถูกหักล้างด้วยแผนการอุดหน้าปากประตู แต่บางครั้งความเชื่อนี้ก็ได้ถูกยืนยันว่าเป็นแนวคิดที่ถูกต้อง เหมือนกับที่นักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วิ่งรวมกัน 114 กิโลเมตร ก่อนคว้าชัยชนะ 2-1 เหนือลิเวอร์พูล

ไม่มีอะไรที่ยืนยันความจริงในเรื่องนี้ได้มากกว่างานวิจัยทางวิทยาศาสตร์โดยผู้เชี่ยวชาญ Main Stand จึงหยิบผลลัพธ์ที่ผ่านการศึกษาโดยศาสตรจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เพื่อค้นหาคำตอบว่าการวิ่งทั้งบนสนามจริงและสนามซ้อมสามารถเพิ่มโอกาสให้นักฟุตบอลคว้าชัยชนะได้จริงหรือไม่ กับคำตอบที่แสดงว่า “วิ่งเยอะได้ แต่ต้องฉลาดด้วย”

สิ่งหนึ่งที่แฟนบอลไม่สามารถปฏิเสธได้เลยคือ การวิ่งด้วยความเร็วสูงในระยะสั้น หรือ sprinting ได้เข้ามามีบทบาทกับกีฬาฟุตบอลอย่างมากในช่วงสิบปีหลัง เพราะอย่างที่เราเห็นกันบ่อยครั้งในลีกฟุตบอลระดับสูงของโลก การวิ่งเพรสซิ่งคู่ต่อสู้เพื่อไล่แย่งบอลอย่างเอาเป็นเอาตายตลอดช่วง 10-15 นาทีแรกของการแข่งขัน กลายเป็นเรื่องปกติของโลกฟุตบอลในปัจจุบันไปแล้ว

หากนักเตะช่วงต้นยุค 2000s วิ่งไล่บอลอย่างหนักในลักษณะดังกล่าว รับประกันว่าพวกเขาจะหมดแรงตั้งแต่ครึ่งแรกยังไม่ทันจบ แต่นักฟุตบอลในปัจจุบันกลับยังคงกดดันคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วเท่าเดิมตลอดครึ่งแรก แสดงให้เห็นว่านักเตะเหล่านี้มีความพร้อมที่จะวิ่งในสนามแข่งขันเยอะกว่าบรรดาแข้งรุ่นพี่ เนื่องจากเทรนด์ที่เปลี่ยนไปในโลกฟุตบอลบังคับให้พวกเขาต้องเป็นแบบนั้น

ติดตามข่าวกีฬา ที่อัปเดตเรื่องราวใหม่ๆ ทุกวันได้ที่ : เว็บบาคาร่า เซ็กซี่
แหล่งที่มา : siamsport

By erapong